เปิดประตูกาลเวลา ตอนที่ 2 “ปริศนาต้นไม้แห่งชีวิต ความว่างอันเป็นอนันต์”
|
|
|
กำหนดวันเวลาเปิดประตูกาลเวลา : วันที่ 19 มีนาคม – 22 มีนาคม 2563 |
|
วันแรก กรุงเทพ – หลวงพระบาง – วัดเชียงทอง – พระธาตุพูสี - ตลาดมืด |
|
07.30 น. |
นัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ F สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการรับ Boarding Pass และโหลดสัมภาระ หลังจากนั้น ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ณ ห้องรับรองVIP Blue Ribbon Lounge ของสายการบินบริเวณหน้า GATE D7
|
09.25 น. |
ออกเดินทางสู่ เมืองหลวงหลวงพระบาง ประเทศลาว โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 941
|
11.35 น. |
เดินทางถึง สนามบินเมืองหลวงพระบาง หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองหลวงพระบางด้วยรถตู้ปรับอากาศ VIP |
12.30 น. |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น |
14.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่ วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) วัดมรดกโลกของยูเนสโก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเวียงจันทน์ เป็นตัวแทนสุดยอดสถาปัตยกรรมช่างทุกแขนงของล้านช้าง โดยเฉพาะการจำหลักไม้เป็นภาพนูนสูง นูนต่ำ การลงรักปิดทอง และการประดับกระจกสีโบราณของวัดเชียงทองนั้นเข้าขั้นเอกอุบรรจงสร้างขึ้นด้วยช่างชั้นครู สำหรับพระอุโบสถใหญ่ สร้างขึ้นด้วยศิลปะล้านช้างแท้ๆ มีหลังคาเตี้ยซ้อนกัน 3 ชั้น ลงรักปิดทองทั้งหลังเหลืองอร่าม ส่วนบนสุดของหลังคามีช่อฟ้า 17 ช่อ บ่งบอกว่าเป็นวัดที่กษัตริย์สร้าง ภายในพระอุโบสถมี พระองค์หลวง พระพุทธรูปสีทองอร่าม เก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักประดิษฐานเป็นองค์ประธาน ว่ากันว่าพระพักตร์ของพระองค์หลวงนั้นเปี่ยมเมตตากรุณา สงบเย็น น่าศรัทธามาก
และมาถึงการร่วมกันค้นหาปริศนาต้นไม้แห่งชีวิตที่ผนังด้านหลังภายนอกอุโบสถ ที่ใช้กระจกสีนับหมื่นชิ้นสร้างสรรค์ขึ้นเป็นรูป ต้นไม้แห่งชีวิต หรือ Tree of Life ที่นอกจากจะแฝงไว้ด้วยปรัชญาความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาแล้ว ยังสื่อถึงพระนิพพาน หรือความว่างอันเป็นอนันต์นั่นเอง
|
16.30 น. |
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ พระธาตุพูสี ที่อยู่บนความสูงราว 150 เมตร มีบันไดทั้งหมด 328 ขั้น สร้างขึ้นเพื่อเป็นเหมือนหมุดตอกตรึงขึงยักษ์ตนหนึ่งไว้ใต้ดิน หากไม่มีพระธาตุพูสี ยักษ์ตนนี้ก็จะขึ้นมาอาละวาดได้ ตลอดสองข้างทางท่านจะได้กลิ่นความหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว การขึ้นมานั่งชมวิวบนพูสีในยามเย็นเช่นนี้ ได้มองเห็นลำน้ำคาน ลำน้ำโขง ทิวเขาทอดยาว และตัวเมืองหลวงพระบางอยู่เบื้องล่าง อาบด้วยแสงทองสุดท้ายของวันช่างเป็นภาพที่ชวนให้หลงรักหลวงพระบางจนหมดใจ
|
17.30 น. |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
จากนั้นให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งบนถนนคนเดินยามค่ำคืน ณ ตลาดมืด ที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองมาขาย ช็อปสินค้าหัตถกรรมละลานตา โดยเฉพาะงานปักผ้าของชาวเขา ผ้าทอมือ ผ้าซิ่น เครื่องเงิน เครื่องไม้ กระเป๋า เสื้อผ้าและของที่ระลึกต่างๆ
|
21.00 น. |
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก (ระดับ 5 ดาว) ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่สอง วัดธาตุหลวง – วัดมโนรม – เมืองเชียงแมน – พิธีบายศรี |
|
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
นำท่านออกเดินทางสู่ วัดธาตุหลวงราชมหาวิหาร (Wat That Luang Rasamahavihane) สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2361 ในสมัยเจ้ามหาชีวิตมังทาตุราช ซึ่งเป็นสมัยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาของนครหลวงพระบาง เชื่อว่าวัดนี้สร้างทับบริเวณวัดเก่าเนื่องจากพบโบราณสถานเก่าแก่เป็นร่องรอยวัด
จากนั้น นำท่านชม วัดมโนรม (Wat Manorom) วัดเก่าแก่และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญที่สร้างขึ้นในล้านช้าง โดยได้รับอิทธิพลศิลปะสุโขทัย สร้างโดยพระยาสามแสนไท
|
12.00 น. |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น |
13.30 น. |
เดินทางสู่ท่าเรือวัดเชียงทอง เพื่อขึ้นเรือข้ามฟากสู่ เมืองเชียงแมน เป็นเมืองลี้ลับแต่ไม่ซับซ้อนที่ตั้งอยู่อีกฝากฝั่งโขงตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง เป็นพื้นที่ที่เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติสูง ที่เพียงแค่นั่งเรือข้ามฝั่งมาเพียง 5 นาที ก็ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเชียงแมนแล้ว |
|
นำท่านชม วัดล่องคูณ เดิมเป็นวัดป่ากรรมฐาน สร้างขึ้นในสมัยเจ้าอนุรุทธ ในราวปี ค.ศ. 1791 มีความสำคัญอย่างมากในพระราชพิธีราชาภิเษกของเจ้ามหาชีวิตของล้านช้าง ที่จะต้องเสด็จมาบำเพ็ญธรรม หรือเข้ากรรมฐาน ที่วัดแห่งนี้เป็นเวลาสามวันก่อนที่จะข้ามแม่น้ำโขงเพื่อเข้าเมืองที่ท่าน้ำวัดเชียงทองก่อนเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตลอดมา วัดล่องคูณจึงมีหอกรรมฐานของเจ้ามหาชีวิตที่ดูเรียบ ง่ายคล้ายกุฏิพระสงฆ์ ตั้งอยู่โดดเด่นใกล้ป่าช้าของวัด ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี รวมไปถึงอาคารประกอบอื่นๆ ของวัดด้วย ถึงเวลาอันสมควรนำท่านล่องเรือกลับหลวงพระบาง
|
17.00 น. |
นำท่านเดินทางกลับโรงแรมที่พัก |
18.00 น. |
รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก พร้อมพิธีบายศรีแบบลาว |
วันที่สาม ตักบาตรข้าวเหนียว – วัดใหม่สุวรรณภูมาราม – พระราชวังหลวงพระบาง – วัดแสนสุขาราม – บ้านช่างไห – ถ้ำติ่ง |
|
05.00 น. |
นำท่านสัมผัสวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาทกับกิจกรรม ตักบาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง
จากนั้น ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับ ตลาดเช้า เป็นเสมือนเครื่องสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวหลวงพระบางที่ยังคงเอกลักษณ์เรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบัน
|
07.00 น. |
เดินทางกลับโรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า |
09.00 น. |
นำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปีพ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
จากนั้น นำท่านชม พระราชวังหลวงพระบาง หรือ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง เป็นอาคารแบบฝรั่งแต่หลังคาเป็นแบบทรงลาวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงหันหน้าเข้าสู่พระธาตุพูสี ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พ.ศ.2447 อาคารด้านข้างเป็น หอไตร ซึ่งประดิษฐาน “พระบาง” พระปางห้ามสมุทรหล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ เจ้าฟ้างุ่มได้รับพระราชทานมาจากเมืองเขมรภายในพิพิธภัณฑ์ โดยภายในหอไตรนี้ยังมีพระไตรปิฎกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 เคยพระราชทานให้กษัตริย์ลาวอีกด้วย
|
|
จากนั้น นำท่านชม วัดแสนสุขาราม จุดเด่นของวัดแสนสุขารามคือ พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ ที่มีอยู่เพียงองค์เดียวในหลวงพระบาง มีพระหัตถ์ที่งดงามผ่องแผ้ว และหอรอยพระพุทธบาทจำลองด้านข้างหอพระยืน ส่วนพระอุโบสถลงรักปิดทองอย่างสวยงาม จัดเป็นศิลปะแบบหลวงพระบางตอนกลาง |
12.00 น. |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น |
13.30 น. |
นำท่านเดินทางสู่ บ้านช่างไห (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ
|
15.00 น. |
นำท่านลงเรือเดินทางสู่ ถ้ำติ่ง (Ting Cave) (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผา ตรงจุดบรรจบของลำน้ำอู ที่ไหลออกสู่ลำน้ำโขง มีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำล่างจะอยู่สูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวน 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพรและปางห้ามญาติ ส่วนถ้ำติ่งบนจะแยกไปทางซ้าย เดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น มีพระพุทธรูปเช่นกันแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวง วิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสาร ทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามาและจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
|
16.30 น. |
ล่องเรือกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง ระหว่างทางท่านจะได้พบทัศนียภาพ 2 ฝั่งโขง ที่ยังคงธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวลาวริม 2 ฝั่งโขง บนเรือให้บริการ Welcome Drink, Soft Drink และผ้าเย็น พร้อมของว่างสำหรับทุกท่าน (ระยะเวลาล่องเรือสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง 1 ชั่วโมง 20 นาที)
|
18.00 น. |
เรือเทียบท่า ณ เมืองหลวงพระบาง รถตู้รอรับท่าน เพื่อนำท่านเดินทางไปรับประทานอาหารเย็น |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น หลังรับประทานอาหารเสร็จ นำท่านเดินทางกลับโรงแรมที่พัก
|
วันที่สี่ น้ำตกตาดกวางสี – บ้านผานม – สนามบินหลวงพระบาง – กรุงเทพฯ |
|
07.00 น. |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
09.00 น. |
เช็คเอ้าท์และออกเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติของ น้ำตกตาดกวางสี เป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่จึงทำให้มีน้ำสีเขียวมรกตแถมยังใสมากๆอีกด้วย มีความสูงกว่า 70 เมตร แวดล้อมไปด้วยป่าอันร่มรื่นยังกับอยู่ในป่าหิมพานต์เลย ซึ่งน้ำตกตาดกวางสีนับว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดและเปรียบเสมือนสวรรค์กลางป่าแห่งหลวงพระบาง
|
12.00 |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น |
13.00 น. |
นำท่านเยี่ยมชม บ้านผานม หมู่บ้านที่ได้รับการยกระดับจากทางการให้เป็น “หมู่บ้านวัฒนธรรม” ผ้าทอมือจาก บ้านผานมเป็นผ้าทอมือที่มีชื่อเสียงมาก มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัถกรรมแสดงสินค้า มีการสาธิตการทอผ้าด้วยกระตุกแบบดั้งเดิม และยังมีผ้าทอรูปแบบต่างๆ จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว ผ้าทอบ้านผานมมีทั้งผ้าแพรเบี่ยง ลวดลายแบบลื้อแท้ๆ และเป็นผ้าที่ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นผ้าปูโต๊ะ ผ้าคลุมเตียง ผ้ารองแก้ว รองจาน เป็นต้น |
15.00 น. |
นำท่านเดินทางสู่ สนามบินหลวงพระบาง |
17.30 น. |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ PG 946 |
19.05 น. |
เดินถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
** บางกอกแอร์พาเปิดประตูกาลเวลาตอนที่ 2 ปริศนาต้นไม้แห่งชีวิต ความว่างอันเป็นอนันต์ บอกเล่าเรื่องราวประเพณีอันดีงาม ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเรียบง่ายสงบงาม ภาพจิตรกรรมต้นไม้แห่งชีวิตที่วัดคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางสื่อถึงความศรัทธาและความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาแห่งดินแดนล้านช้าง และความเป็นนิพพาน **
------------------------------------------
อัตราค่าบริการ
สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. – 7 มี.ค. 2563
ณ 24 ธันวาคม 2562
อัตราค่าบริการ |
ราคาต่อท่าน |
ราคาผู้ใหญ่ พักสองท่านต่อห้อง สำหรับบุคคลทั่วไป |
28,900 บาท |
ราคาผู้ใหญ่ พักสองท่านต่อห้อง สำหรับสมาชิก Flyer Bonus |
25,900 บาท |
พักเดี่ยว ชำระเพิ่ม |
5,700 บาท |
หมายเหตุ: การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้เดินทางซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ขั้นต่ำจำนวน 20 ท่าน หากจำนวนผู้เดินทางต่ำกว่า 20 ท่าน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทางหรือปรับเปลี่ยนราคา
อัตรานี้รวม:
อัตราข้างต้นไม่รวม:
เงื่อนไขการชำระเงิน:
ช่องทางการชำระเงิน โอนผ่านบัญชีธนาคาร ชื่อ “บจก บางกอกแทรเวล คลับ”
BANK |
BRANCH |
ACCOUNT NO. |
REMARK |
ธนาคารกสิกรไทย |
สาขานานาเหนือ |
063-2-77755-8 |
ออมทรัพย์ |
หมายเหตุ กรุณาสำเนาใบโอนเงิน มาทางอีเมล์ของบริษัทฯ ที่ info@bangkoktravelclub.co.th หรือ โทรสารเบอร์ 02-617 4296
เงื่อนไขกรณียกเลิก:
เงื่อนไขการให้บริการและข้อควรทราบ: